เรียงความปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
วันนี้ปอล์มีเรียงความมาฝากพี่ๆเพื่อนน้องๆเรียกน้ำย่อยของการกลับมาเขียนบทความผ่านโลกออนไลน์
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับการพพัฒนาที่ยั่งยืน
“ เศรษฐกิจพอเพียง ” เป็นแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระมหากษัตริย์รัชการที่ ๙ ที่พระองค์ทรงพระราชทานมานานกว่า ๓o ปี
เพื่อชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดตั้งแต่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจและทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขและให้ยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์และการเปลี่ยนแปลงต่างๆและยังมีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนายกระดับโดยองค์การสหประชาชาติ
ซึ่งจะเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตไปสู่ “ ความสุข ”ในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง
“ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ” เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการปฏิบัติตนและการดำรงชีวิตของประชาชนทุกระดับ
ตั้งแต่ระดับพื้นฐานคือ ระดับครอบครัว ระดับชุมชนสังคม จนถึงระดับรัฐ ระดับประเทศ
โดยเฉพาะเป็นแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจให้ก้าวทันสู่ยุคโลกาภิวัฒน์
การพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นสิ่งที่ทุกคน ทุกระดับ สามารถทำได้
เพียงแค่ใช้ชีวิตบนทางสายกลาง ซึ่งทางสายกลางในที่นี้คือ ๑. ความพอ
ประมาณ ความพอดีในการต้องการสิ่งนั้นๆ
ซึ่งไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ๒. ความมีเหตุผล การมีเหตุผลในการตัดสินใจ
ตลอดจนการคำนึงถึงความจำเป็น และ ๓. มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตนเอง
การที่คิดหรือจะทำอะไรจะต้องมีการวางแผนเตรียมตัวรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ
ภายในอนาคตทั้งใกล้และไกล
และยังคงมีสองเงื่อนไขตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ตระหนักถึงความพอเพียงควบคู่ความดี
คือ ๑. เงื่อนไขความรู้ หมายถึง การมีความรู้อย่างรอบด้าน
มีความรอบคอบ เพื่อประกอบการวางแผนอย่างระมัดระวังในทุกๆด้าน ๒. เงื่อนไขคุณธรรม ซึ่งข้อนี้จะทำให้เราตระหนักในคุณธรรม
ปฏิบัติตนอยู่บนความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คดโกงและมีความอดทน
มีสติปัญญาในการดำเนินชีวิต ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักคิดและหลักปฏิบัติ
ในการดำเนินชีวิตไปสู่ความพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงมีการพัฒนาทั้งด้านวัตถุทางสังคม
ทางด้านสิ่งแวดล้อมและทางด้านวัฒนธรรม
โดยหลักการทั้งหมดเป็นการแก้ปัญหาความยากจนขั้นพื้นฐาน
ตลอดจนการใช้ชีวิตแบบพอกินไม่เดือดร้อนผู้อื่น
ถ้าเราใช้หลักความพอเพียงเป็นหลักคิดและหลักปฏิบัติในชีวิต
เราก็จะรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน
“ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ”
ขั้นตอนแรกเราควรมีความรู้เกี่ยวกับคำว่า “ พัฒนาที่ยั่งยืน ” นั่นคือเศรษฐกิจพอเพียงสิ่งแวดล้อมจะต้องปรับตัวเข้าหากัน
จนทำให้เป็นภาวะที่ยั่งยืนในด้านต่างๆ โดยใช้มนุษย์เป็นผู้พัฒนาเพื่อให้เกิดความสมดุล ระหว่างคน ธรรมชาติ
และสรรพสิ่งในโลกใบนี้ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
การพัฒนาที่ผ่านมาจะเน้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
มนุษย์เราเห็นความเจริญเป็นสำคัญโดยไม่คำนึงถึงธรรมชาติที่ถูกทำลาย
ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ไม่สมดุล ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ผู้คนแก่งแย่งแข่งขันทรัพยากรธรรมชาติเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
จนเกิดการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน สาเหตุต้นๆของการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืนในความคิดของดิฉันคงจะเป็นเพราะ
ความต้องการที่ไม่สมเหตุสมผล ฟุ่มเฟือยจนทำให้เปลืองทรัพยากร
การที่บุคคลหวังผลประโยชน์ของตนเองจนไม่คำนึงถึงผลกระทบของส่วนรวม
จะทำให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดส่งผลทำลายในหลายๆด้าน
จนก่อให้เกิดการพัฒนาจากองค์การสหประชาชาติได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาโดยอาศัยกรอบความคิดของเศรษฐกิจ
สังคม สิ่งแวดล้อมให้เชื่อมโยงกัน ซึ่งเรียกว่า “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน”ประกอบไปด้วย ๑๗ เป้าหมาย คือ ขจัดความยากจน
บรรลุเป้าความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการ
ส่งเสริมความเป็นอยู่ของทุกคนในทุกช่วงอายุ ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม
มีความเสมอภาคทางเพศ และสุขาภิบาลอย่างยั่งยืน
ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานที่ทันสมัย ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
พัฒนาพื้นฐานพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง ลดความเหลื่อมล้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ถิ่นฐานของมนุษย์มีความปลอดภัย มีแบบแผนการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน
ต่อสู้กับภูมิอากาศและผลกระทบ อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล บูรณะระบบนิเวศทางบก
ส่งเสริมให้สังคมสันติสุข และเสริมสร้างความเข้มแข็งในวิธีการปฏิบัติให้เกิดผล
ซึ่งที่กล่าวมาคือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
จุดหมายปลายทางของการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สุดของความสำเร็จ
คือเราสามารถนำความสมดุลเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
บูรณาการทั้งหมดเข้าหากันได้สำเร็จ จนทำให้เกิดผลดีที่ตามมาอย่างยั่งยืน
“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน”
ในความคิดของดิฉันก็คือต้องรู้ความหมายของหลักปรัชญาและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยนำทั้งสองหัวข้อมาประยุกต์ใช้โดยการเชื่อมโยงความหมายเข้าหากันและจะทำให้เกิดประโยชน์ไปในทิศทางเดียวกัน
อาทิ เช่น ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจคือการนำหลักการสายกลางมาดำเนิน คือ
มีความรอบคอบ รอบรู้ ภูมิคุ้มกันที่ดี
เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงและมีการเสียหายน้อย ส่งเสริมให้สังคมมีความสันติสุข
คือการมีความซื่อสัตย์ สุจริต รู้จักแบ่งปัน พอมี
พอกินในแบบของตนเองไม่เดือดร้อนผู้อื่น เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
คงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบูรณาการกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประสบความสำเร็จ
เพราะทั้งสองเรื่องก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือ มุ่งที่จะพัฒนาประชาชนในทุกระดับ
ตั้งแต่ระดับครอบครัวจนถึงระดับประเทศ และเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศด้วย
“แนวคิดกับการใช้ในชีวิตจริง”
จากแนวคิดเป้าหมายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในการดำเนินชีวิต
ซึ่งตัวดิฉันเองก็เห็นความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนที่จะควบคู่ไปกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
และฉันได้ผ่านการพัฒนาโดยนำมาใช้ในชีวิตจริงให้เกิดผลประโยชน์ตามเป้าหมาย
คือตัวดิฉันเองเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นเพียงนักเรียนในวัยเรียน
ซึ่งวัยเรียนก็จะต้องมีการใช้เงิน ฐานะทางบ้านของดิฉันไม่ได้ร่ำรวย
แต่ดิฉันถูกครอบครัวและสังคมเลี้ยงอบรมมาโดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เช่นย่าของฉัน จะปลูกผักบริเวณรั้วบ้าน
โดยจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อผักเวลาทำกับข้าว
แล้วยังเหลือผักที่สามารถนำไปขายได้อีกด้วย
ซึ่งนับว่าเป็นการพออยู่พอกินในระดับหนึ่ง พ่อของฉันก็เลี้ยงสุกร
และนำมูลของสุกรไปใส่ไร่มันบ้าง ไปขายบ้าง พ่อของฉันได้คิดวางแผน
เพื่อให้ได้ประโยชน์จากสิ่งนั้นๆอย่างคุ้มค่า
ส่วนตัวของดิฉันก็ถูกปลูกฝังให้รู้จักการใช้ชีวิตแบบประหยัดไม่ฟุ่มเฟือยมาตั้งแต่เด็ก
ซึ่งดิฉันเองชอบการอดออม และมักจะตัด สินใจในการซื้อของโดยการใช้เหตุผลว่าสิ่งที่ซื้อนั้นจำเป็นมากน้อยแค่ไหน
และหมู่บ้านของดิฉันยังปลูกฝังชาวบ้านโดยการนำเศษใบไม้มาหมักเพื่อให้ได้ไปปุ๋ยและแจกจ่ายให้ชาวบ้านไปใส่ในที่ทำไร่
ทำสวนของตัวเอง ซึ่งสิ่งพวกนี้ในความคิดของดิฉัน อาจไม่ใช่การพัฒนาทั้งประเทศ
แต่ก็เป็นการขจัดความยากจนภายในครอบครัวและชุมชนได้ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการพัฒนาที่ดีจากระดับครอบครัว
ชุมชน ที่ได้ปฏิบัติตนเป็นต้นแบบตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
และยังส่งผลดีไปถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะถ้าเราถูกปลูกฝังสิ่งใด
สิ่งนั้นจะติดตัวเราไปตลอด
หากดิฉันโตมากกว่านี้ดิฉันจะนำเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในระดับสูงๆ
เช่นไปเผยแผ่ให้น้องๆรุ่นหลัง ไปพัฒนาเพิ่มในชุมชน
และยังคงใช้ชีวิตแบบพอเพียงให้เกิดการพัฒนายั่งยืนต่อไปอีกยาวนาน
จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ดิฉันเห็นถึงความสำคัญของประเทศชาติ
หากเราทุกคนเป็นบุคคลหนึ่งที่ทำตามหลักปรัชญาและเป้าหมายการพัฒนา
ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ประเทศไม่เดือดร้อน
มีแต่ความสงบสุขทั้งเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
รัฐบาลได้สร้างรากฐานของชุมชนให้เข้มแข็งด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง
และองค์การสหประชาชาติยังคงต่อยอดความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป
เมื่อชุมชนเกิดความเข้มแข็ง ประเทศชาติก็เกิดความมั่นคง
นั่นคือสิ่งที่จะแสดงให้เห็นว่า ประเทศชาติของเราเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยแท้จริง เรียบเรียงโดย นางสาวภาวิณี คงร้อย
เรียงความฉบับนี้มีลิขสิทธิ์กรุณาห้ามลอกเลียนเเบบ
สนใจจ้างงานติดต่อได้ที่
สนใจจ้างงานติดต่อได้ที่
FB. โอปอ 'ล์
Line : pozii61
mail: pawinee3303@gmail.com
Tel : 0947372981 ,0616486582
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น